Movie Talk Justice League: The Flashpoint Paradox หักมุมตลอด
Justice League: The Flashpoint Paradox
รีวิวหนัง บาคาร่า เรื่อง Justice League: The Flashpoint Paradox เป็นภาพยนตร์อนิเมชันแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่สร้างจากการ์ตูนยอดนิยมของ DC Comics ซึ่งออกฉายในปี 2013 โดยมีความยาวประมาณ 75 นาที ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการกำกับโดย Jay Oliva และเป็นการดัดแปลงมาจากคอมมิกส์เรื่อง “Flashpoint” ของ Geoff Johns
นักแสดง
ในเรื่องนี้มีนักพากย์ที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น:
- Justin Chambers เป็น Barry Allen / The Flash
- Kevin McKidd เป็น Thomas Wayne / Batman
- Jessica DiCicco เป็น Wonder Woman
- Ron Perlman เป็น Deathstroke
- Michael B. Jordan เป็น Cyborg
- Kevin Conroy เป็น Batman (ในฐานะ Thomas Wayne)
คะแนนจากเว็บไซต์ต่างๆ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคะแนนที่น่าพอใจจากผู้ชมและนักวิจารณ์:
- IMDb: 8.0/10
- Rotten Tomatoes: 100% (คะแนนจากนักวิจารณ์) และ 87% (คะแนนจากผู้ชม)
สรุปเรื่อง
Justice League: The Flashpoint Paradox เล่าเรื่องราวของ Barry Allen หรือ The Flash ที่ต้องเผชิญกับผลที่ตามมาจากการย้อนเวลาของเขาเพื่อช่วยชีวิตแม่ที่ถูกฆ่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ทำให้เขาเข้าสู่โลกที่แตกต่างไปจากเดิม โลกที่ซูเปอร์ฮีโร่และซูเปอร์วายร้ายต้องต่อสู้กันอย่างดุเดือด การเปลี่ยนแปลงที่เขาทำทำให้โลกนี้ไม่มี Justice League และทำให้มีสงครามระหว่าง Amazonian และ Atlanteans เกิดขึ้น ในโลกนี้ Thomas Wayne กลายเป็น Batman แทน Bruce Wayne ที่ตายไปตั้งแต่เด็ก
ในโลกที่ Barry Allen ต้องเผชิญกับความสับสน เขาได้พบกับ Thomas Wayne ที่เป็น Batman และ Aquaman ที่เป็นผู้นำของ Atlantis การทำงานร่วมกันของพวกเขาเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่ง Barry ต้องพยายามทำให้ทุกอย่างกลับสู่ที่เคยเป็นในขณะที่ยังต้องต่อสู้กับศัตรูที่มีอำนาจอย่าง Reverse-Flash
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การต่อสู้ของซูเปอร์ฮีโร่ แต่ยังสื่อถึงผลกระทบของการกระทำที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนอื่นๆ และความสำคัญของครอบครัวและการยอมรับว่าบางสิ่งอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
โดยรวมแล้ว Justice League: The Flashpoint Paradox เป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยการกระทำที่น่าตื่นเต้น มีการพัฒนาตัวละครที่ดีและเนื้อเรื่องที่มีความลึกซึ้ง ทำให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์อนิเมชันที่ดีที่สุดของ DC Comics ที่ทำให้ผู้ชมคิดถึงแนวทางของการกระทำที่พวกเขาทำและผลกระทบที่ตามมา
